สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล กับ บัตรกดเงินสด แตกต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี

หัวข้อเด่นในเรื่องนี้

คนเราต่างก็มีเรื่องจำเป็นที่ต้องใช้เงินกันทั้งนั้น ยามที่ต้องการใช้เงินกรณีฉุกเฉิน

จะขอหยิบยืมใครก็ยาก สิ่งที่จะช่วยเราได้ก็คือ การใช้เครื่องมือทางการเงินสมัยใหม่อย่าง “สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล” และ “บัตรกดเงินสด” เมื่อเรามีความจำเป็นต้องใช้เงิน และต้องการหาแหล่งเงินที่เข้าถึงง่าย แต่หลายคนอาจสับสนระหว่าง บัตรกดเงินสด กับสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลว่ามันแตกต่างกันอย่างไร แล้วควรเลือกแบบไหนดีกว่ากัน มาหาคำตอบกันดีกว่า

สินเชื่อบัตรกดเงินสด

ประการแรก “เรื่องราวของบัตรกดเงินสด”

“บัตรกดเงินสด” คือ เครื่องมือทางการเงินในยุคใหม่ที่ทำให้ผู้ขอสินเชื่อรายย่อยในระดับบุคคลสามารถเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อใช้เป็น “สภาพคล่อง” ไว้จับจ่ายในชีวิตประจำวันได้ไม่ติดขัด การใช้บัตรกดเงินสดยามจำเป็นถือเป็นเรื่องดี แต่หากเราใช้เกินความจำเป็นก็อาจส่งผลเสียได้

ข้อดีของบัตรกดเงินสด ก็คือ บัตรกดเงินสดถูกออกแบบมาให้เราสามารถกดเงินออกมาใช้ได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อเป็นสินเชื่อเงินสด ที่จะคิดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมตามจำนวนเงินที่กดมาใช้ โดยไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำในการถอนแต่ละครั้ง รวมถึงไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงินแต่ละครั้งอีกด้วย และกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นหน่อย โดยปกติจะสูงกว่าบัตรเครดิตไม่มาก ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทที่ออกบัตรกดเงินสดออกมาให้เราได้ใช้

บัตรกดเงินสดมีการคิดดอกเบี้ยอย่างไร สำหรับการคิดดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด จะขึ้นอยู่กับธนาคาร หรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรกดเงินสดเป็นหลัก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันออกไป แต่จะมีเพดานสูงสุดอยู่ที่ 28% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยอาจแตกต่างกันในแต่ละที่ ตามที่สถาบันการเงินนั้นๆ ได้กำหนดกฏเกณฑ์เอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดวงเงินต่ำ อัตราดอกเบี้ยอาจจะสูง และหากวงเงินที่ได้รับสูง อัตราดอกเบี้ยอาจจะต่ำลง

ข้อพึงระวังในการใช้บัตรกดเงินสด ก็คือ การที่บัตรกดเงินสดมีความสะดวก ทำให้เราสามารถกดเงินมาใช้จ่ายอย่างง่ายๆ อาจทำให้เราเพลิดเพลินไปกับการจับจ่ายจนลืมตัว ที่สำคัญบัตรกดเงินสดไม่ได้มีการแบ่งจ่ายผ่อนชำระเป็นงวดๆ ทำให้วินัยทางการเงินของผู้ใช้อาจหย่อนยานได้นะครับ ต้องระวังการใช้ให้ดี

สินเชื่อส่วนบุคคล

ประการที่สอง “เรื่องราวของสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล”

สำหรับสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล ถือเป็นบริการสินเชื่อที่สถาบันการเงินออกแบบมาให้เหมาะกับจุดประสงค์การใช้เงินของแต่ละคน โดยสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลจะถูกเสนอโดยธนาคาร หรือสถาบันการเงิน และจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน

เมื่อเราได้รับอนุมัติสินเชื่อเงินสด ก็จะมีเงินก้อนโอนเข้ามายังบัญชีที่เราแจ้งเอาไว้ หรือกำหนดเอาไว้ หลังจากเราได้รับเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว ต้องทยอยผ่อนชำระคืนเป็นงวด งวดละเท่าๆ กัน จนครบจำนวนงวด ซึ่งถ้าเมื่อเปรียบเทียบกับบัตรกดเงินสด จะมีข้อดีดังต่อไปนี้

  • วงเงินของสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลที่ได้รับจะสูงกว่าบัตรกดเงินสด เนื่องจากสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลจะมีเกณฑ์การปล่อยที่เข้มงวดกว่า และมีระยะเวลาการผ่อนชำระชัดเจน ทำให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกสินเชื่อ สามารถให้วงเงินที่สูงกว่าบัตรกดเงินสด
  • เมื่อผ่านการอนุมัติจะได้รับเงินก้อนโอนเข้าบัญชีทันที สำหรับสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลเราจะได้รับเงินเป็นก้อนทันที่ที่ผ่านการอนุมัติ และเราต้องไปบริหารจัดการเงินก้อนนี้เองว่าจะไปใช้จ่ายอะไร อย่างไรบ้าง ถือว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขอสินเชื่อเป็นอย่างดีทีเดียว
  • วงเงินอนุมัติได้ก้อนใหญ่ โดยปกติแล้ววงเงินอนุมัติจะได้ค่อนข้างสูง แต่มักจะไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน เช่น เรามีงานประจำมีเงินเดือนราว 20,000 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินก้อนไม่เกิน 100,000 บาทต่อการขอสินเชื่อแต่ละรอบ ถือว่าได้เงินเยอะ และก้อนใหญ่
  • ดอกเบี้ยจะคิดเป็นรายวัน แบบลดต้นลดดอก เมื่อเราได้รับเงินก้อนเข้าบัญชีแล้ว ทันทีที่เงินถูกโอนเข้าบัญชีเรา ธนาคาร หรือสถาบันการเงินผู้ออกเงินกู้จะคิดดอกเบี้ยเรานับตั้งแต่วันที่โอนเลยนะครับ และจะคิดเป็นรายวัน แต่ดอกเบี้ยจะคิดให้เราแบบลดต้นลดดอก พูดง่ายๆ ก็คือ อัตราดอกเบี้ยจะคิดจากฐานเงินใหม่ ถ้าเราผ่อนชำระคืนทั้งต้นทั้งดอก ก็จะลดลงเรื่อยๆ
  • การผ่อนชำระมีการกำหนดเป็นงวดๆ ค่อนข้างชัดเจน ข้อดีก็คือ ทำให้เรามีวินัยทางการเงิน ไม่ปล่อยให้ดอกเบี้ยมันทบไปทบมาจนพอกพูน โดยสินเชื่อเงินสดจะมีระยะเวลาการผ่อนชำระที่ชัดเจนมากๆ หลายแห่งให้เวลาผ่อนชำระนานถึง 72 เดือน ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับเราได้เป็นอย่างดี
  • อัตราดอกเบี้ยถูกกว่าบัตรกดเงินสด อันนี้เป็นเรื่องสำคัญเลยล่ะครับ เพราะสินเชื่อส่วนบุคคลให้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าบัตรกดเงินสด ส่วนจะถูกแค่ไหน ลองสอบถามกับทางสถาบันการเงินโดยตรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถาบันการเงินประกอบด้วยนะครับ
ทั้งบัตรกดเงินสด และสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลล้วนมีประโยชน์

แต่หากเราต้องใช้เงินก้อนใหญ่ และต้องการการผ่อนชำระคืนเจ้าหนี้ที่ชัดเจน ควรเลือกใช้สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล และหากเราต้องการพกบัตรกดเงินสดไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ก็เลือกสมัครอย่างหลัก พึงระวังไว้เสมอว่า ทั้งสองเครื่องมือทางการเงินล้วนเป็นการกู้ยืมเงิน และมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ถ้าเราใช้เป็นก็จะเกิดประโยชน์กับเราเองอย่างแน่นอนที่สุด

แหล่งข้อมูล/checkraka