ความแตกต่างระหว่าง เครดิตบูโร และ แบล็คลิตส์

หัวข้อเด่นในเรื่องนี้

มีหลากคนที่รู้จักกับ เครดิตบูโร และ แบล็คลิตส์ ลูกค้าทำการกู้เงินผ่านทางสถาบันการเงินต่างๆ หรือลูกค้าที่จะกู้เงินทางสถาบันการเงินนั้นๆ จะต้องให้ลูกค้านั้นตรวจสภาพเครดิตของลูกค้านั้นก่อน ก่อนที่จะให้ดำเนินการในการกู้เงินหรือดำเนินการในขั้นตอนต่อๆไป ลูกค้าหลายท่านคงรู้จักความหมายของสองคำนี้ดี และไม่มีใครที่อยากจะติดแน่นอนแต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คงไม่ทำการกู้เงินเพราะรู้ว่ากู้มาแล้วไม่มีเงินส่งหรือเงินไม่พอจะเกิดผลอะไรตามมา นี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางที่ควรคิดและควรจะตัดสินใจให้ดี และเชื่อได้เลยว่ายังมีลูกค้าอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ความหมายของเครดิตบูโร และ แบล็คลิตส์

เครดิตบูโร คืออะไร

เครดิตบูโร

บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (National Credit Bureau) เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อมีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลเครดิตต่างๆ ของลูกค้าที่จะทำการกู้หรือทำการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆเอาไว้ หรือที่เรารู้จักกันว่า เครดิตบูโร ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลประวัติการเป็นหนี้ ประวัติการชำระหนี้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มาจากสถาบันทางการเงินทั้งที่เป็นธนาคาร และไม่ใช่ธนาคาร สมาชิกหรือบุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาดูข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อ บัตรเครดิต และพฤติกรรมทางการเงินได้  ข้อมูลที่ทางเครดิตบูโรจัดเก็บไว้มี 2 ส่วน คือ

  • ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงตัวตนของลูกค้า เช่น ชื่อสกุล ที่อยู่ เลขที่บัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด อาชีพ สถานภาพการสมรส แต่ไม่สามารถเก็บข้อมูลบางอย่างได้ เช่น คดีทางอาญา ลักษณะพิการทางร่างกาย ในกรณีที่เป็นนิติบุคคล จะเป็นชื่อสถานที่ตั้ง เลขทะเบียนนิติบุคคล เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการขอสินเชื่อ การได้รับอนุมัติสินเชื่อ และประวัติการชำระสินเชื่อ ไม่ได้จำกัดแค่สินเชื่อส่วนบุคคล แต่ยังรวมถึงสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อเงินสด ประวัติการค้ำประกัน ซึ่งจะแสดงข้อมูลในส่วนของหนี้สินเท่านั้น

ในการที่ลูกค้าจะทำการขอสินเชื่อนั้น ทางสถาบันการเงินจะต้องขอตรวจสอบเครดิตบูโรก่อน เพราะการที่ทำเช่นนี้เพื่อที่จะใช้ในการพิจารณาในการอนุมัติสินเชื่อ หากพบว่าประวัติของลูกค้านั้นพบประวัติล่าช้าอาจจะทำให้การพิจารณาสินเชื่อได้ง่ายขึ้น หรืออาจจะไม่อนุมัตินั้นเอง

 ติดแบล็คลิสต์ คืออะไร

ติดแบล็คลิส

 คือ การที่ลูกค้าได้ทำการกู้เงินจากสถาบันทางการเงินต่างๆ แล้วมีการผิดนัดชำระเงิน มีการล่าช้าในการชำระเงิน ไม่เป็นหรือไม่ตรงตามเงื่อนไขของสถาบันทางการเงินนั้นๆ ตามเวลาที่กำหนกไว้ แค่หนึ่งงวดเท่านั้นก็อาจทำให้ประของลูกค้านั้นกลายเป็นประวัติเสียได้ ข้อมูลการชำระเงินตรงนี้จะไปปรากฏที่ฐานข้อมูลของเครดิตบูโร ถ้าลูกค้ามีการขอสินเชื่อเพิ่ม ฐานข้อมูลตรงนี้จะนำถูกมาพิจารณาและผลอาจจะไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อ ไม่ว่าจะยื่นกับธนาคารไหนก็ตาม โดยข้อมประวัติดังกล่าวจะถูกบันทึกไว้ถึง 3 ปี ลูกค้าจึงจะทำการขอสินเชื่อใหม่ได้ ยื่นใหม่ก็อาจจะไม่ผ่าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางสถาบันการเงินนั้นๆ

สรุปความแตก เครดิตบูโร และ แบล็คลิตส์

เครดิตบูโร และ แบล็คลิตส์ ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เครดิตบูโรเป็นบริษัทที่รวบรวมข้อมูลของลูกค้าที่ทำการกู้หรือขอสินเชื่อจากสถาบันท่งการเงินต่างๆเอาไว้ ส่วนแบล็คลิตส์ คือ การที่ลูกค้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงตามที่กำหนด ทำให้ไม่สามารถขอสินเชื่ออื่นหรือสินเชื่อใหม่จากสถาบันการเงินได้ ถ้าจะทำให้ปกติต้องชำระยอดที่ค้างก่อน

ขอบคุณที่มาข้อมูล : www.taokaemai.com

เรียบเรียงโดย : 168creditcards.com