ทำบัตรเครดิตแล้ว จะใช้อย่างไรให้มีวินัย

หัวข้อเด่นในเรื่องนี้

การที่มีบัตรเครดิตนั้น จะช่วยเพิ่มความสามารถในการชำระค่าสินค้า และบริการให้คล่องตัวมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องพกเงินสดครั้งละมากๆเพื่อจะชื้อของ และไม่เพียงแค่ไว้ใช้ชำระค่าสินค้าแทนเงินสด ยังสามารถรับประโยชน์ต่างๆจากบัตรที่ถืออยู่ได้ด้วย ซึ่งในปัจจุบันการใช้บัตรเครดิตได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายกับบุคคลที่มีรายได้ประจำตั้งแต่เริ่มต้นทำงานจนไปถึงวัยผู้ใหญ่

เพราะสถาบันการเงินได้ปรับตัวให้เข้าถึงความต้องการของผู้ใช้บัตรเครดิต ด้วยการโฆษณาที่สร้างความรู้สึกต่อผู้ที่ต้องการทำบัตรเครดิต ด้วยเงื่อนไขที่ง่ายต่อการสมัครและขั้นตอนการพิจารณาที่ง่ายมากขึ้น

แต่ไม่ได้หมายความว่าใครๆก็จะสามารถทำบัตรเครดิตได้ เพราะสถาบันการเงินก็มีการกำหนดเงื่อนไขในการสมัครบัตรแต่ละใบไว้อย่างชัดเจน การที่จะทำบัตรเครดิตให้ผ่านนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่การจะใช้บัตรเครดิตให้มีวินัยและปลอดภัยต่างหากที่เป็นเรื่องที่ยากกว่า

วินัยในการใช้บัตรเครดิต

การทำบัตรเครดิตอย่างไรให้ตรงใจสถาบันการเงิน และใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้มีวินัย ซึ่งการทำบัตรเครดิตนั้นจะต้องเริ่มจากการเปรียบเทียบว่าบัตรของแต่ละสถาบันการเงิน แต่ที่สำคัญคือ ต้องทำการเปรียบเทียบบัตรในประเภทเดียวกัน ไม่ใช่ต้องการทำบัตรเครดิตประเภทท่องเที่ยว แต่ไปเปรียบเทียบประเภทบัตรความงาม เพราะเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์นั้นจะต่างกัน

เมื่อเปรียบเทียบบัตรของแต่ละสถาบันการเงินแล้ว ก็ถึงขั้นตอนของการยื่นสมัคร หลักฐานทั่วไปที่จะต้องยื่นก็คือ สำเนาบัตรประชาชน สลิปเงินเดือน สำเนาสมุดบัญชี เท่านี้ก็สมัครบัตรได้แล้ว หลังจาที่ทำการยื่นสมัครทำบัตรเครดิตแล้ว ทางสถาบันการเงินจะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ผลของการที่สถาบันการเงินจะอนุมัติหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้สมัครด้วยเช่นกัน

หลักเกณฑ์ในการอนุมัติจะขึ้นอยู่กับสองปัจจัยด้วยกัน คือ

  • มีประวัติค้างชำระในเครดิตบูโรหรือไม่ หากไม่มีประวัติการค้างชำระและไม่ติดเครดิตบูโร ทางสถาบันการเงินก็จะพิจารณาที่จะอนุมัติบัตรให้ แต่หากทางสถาบันการเงินตรวจสอบพบว่ามีหนี้ที่ค้างอยู่ หรือมีประวัติการค้างชำระ ทางสถาบันการเงินก็จะปฎิเสธการการอนุมัติทันที
  • คุณสมบัติของผู้สมัครตรงกับเงื่อนไขที่สถาบันการเงินตั้งไว้ ที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า คุณสมบัติจะต้องตรงตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินได้กำหนดไว้ เช่น มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ประกอบกับมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 15,000 บาทขึ้นไป และมีอายุการทำงานอย่างน้อย 6 เดือน แต่ในกรณีที่สมัครทำบัตรเครดิตที่กำหนดว่าผู้สมัครจะต้องมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 40,000 แต่ผู้สมัครมีเงินเดือนเพียง 20,000 ทางสถาบันการเงินก็จะไม่อนุมัติให้ผ่านได้

นี้จึงเป็นเหตุผลหลักๆว่าทำไมการทำบัตรเครดิตของหลายคนที่สมัครอย่างไรก็ไม่ผ่าน เพราะเงื่อนไขและคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ที่ทางสถาบันการเงินได้กำหนด ดังนั้นการจะทำบัตรเครดิต จะต้องแน่ใจว่าคุณสมบัติของตนเองเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด อย่างไรแม้ว่าสมัครบัตรผ่าน แต่สิ่งสำคัญที่ตามมาทันทีคือภาระที่เพิ่ม ภาระนี้เองที่จะเป็นตัวทำให้ผู้ถือต้องมีวินัยที่เพิ่มขึ้นในการใช้จ่ายผ่านบัตร เพราะถ้าขาดวินัยในการใช้บัตร ก็จะนำไปสู่การเป็นหนี้

ใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย

สาเหตุหลักๆของการเป็นหนี้บัตรเครดิตนั้นจะประกอบด้ว

1.ชำระค่าบัตรล่าช้า

ปัญหาแรกที่ผู้ใช้บัตรเครดิตมักจะพบ คือ การชำระค่าบัตรล่าช้ากว่าที่สถาบันการเงินได้กำหนดวันไว้ ด้วยสาเหตุหลักมาจากการที่ไม่สามารถที่จะหาเงินมาได้ทันตามที่กำหนดไว้ ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงนำไปสู่ดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินจะคิดอัตราของการผิดนัดชำระ และเริ่มต้นคิดอกเบี้ย แม้ว่าเมื่อถึงวันที่มีเงินแล้วนำไปชำระเต็มจำนวน แต่ก็ต้องชำระค่าดอกเบี้ยที่ชำระล่าช้าด้วย

2. เบิกเงินสดจากบัตรเครดิต

ความเข้าใจผิดประการต่อมาของการใช้บัตรเครดิต ตอนที่ทำบัตรเครดิต ทางสถาบันการเงินแจ้งว่าสามารถทำการเบิกเงินสดจากตู้ ATM แต่ทางสถาบันการเงินนั้นพูดไม่หมด เพราะการกดเงินสดจากบัตรเครดิตนั้น ทางสถาบันการเงินจะทำการคิดอัตราจากจำนวนเงินสดที่ถอนออกมาทันที 3% และคำนวณอัตราดอกเบี้ยจากจำนวนเงินที่กดออกไปที่ 28% ต่อปี และคำนวณทุกวัน นี้จึงเป็นอีกปัญหาของผู้ใช้บัตรเครดิต ที่ใช้ผิดวัตถุประสงค์ แม้ว่าเงื่อนไขการใช้บัตรจะเปิดช่องให้กดเงินสดออกมาได้ แต่เป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะทำ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงมากและคิดรายวัน จนกว่าที่จะนำเงินชำระคืนพร้อมดอกเบี้ย ที่จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาของการขาดวินัยหรือความเข้าใจผิดในการใช้บัตรเครดิต

3. ใช้เต็มวงเงินทุกเดือน

การทำบัตรเครดิตมีปัจจัยเริ่มต้นจากความต้องการที่จะเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชำระสินค้าแทนเงินสด แต่ในความเป็นจริงเมื่อได้รับบัตรมากับไม่ได้ใช้บัตรไปตามที่ตั้งใจก่อนทำบัตรเครดิต เพราะบัตรเครดิตมีประโยชน์และโทษหากใช้เกินความสามารถที่จะชำระได้ เนื่องจากเมื่อใช้บัตรเต็มวงเงินกลับไม่สามารถทำการชำระได้เต็มจำนวนวงเงินที่ใช้ไป จึงเลือกที่จะชำระแบบขั้นตํ่า และกับดักที่ตามมาก็คือ ดอกเบี้ย 20% จากการชำระแบบขั้นตํ่า และการสะสมของดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากชำระแบบขั้นตํ่าต่อเนื่องหลายเดือน และยิ่งหนี้เพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ โอกาสที่ทางสถาบันการเงินจะทำหนังสือทวงถามก็มีสูง และท้ายที่สุดก็นำไปสู่การฟ้องร้องในชั้นศาล

หากเรื่องถูกนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลจะยิ่งทำให้ยากมากขึ้นหากจะปลดหนี้ แม้ว่าจะปลดหนี้ไปได้แล้ว แต่ประวัติก็จะยังคงค้างอยู่ในเครดิตบูโร การที่จะทำธุรกรรมใดๆกับทางสถาบันการเงินก็จะไม่ได้รับการพิจารณา เพราะมีประวัติที่ค้างอยู่ในเครดิตบูโร

4. สมัครบัตรเพิ่ม

ประการสุดท้ายของการใช้บัตรเครดิตแบบขาดวินัย คือการทำบัตรเครดิตเพิ่ม ทั้งที่มีบัตรเครดิตอยู่แล้ว 2 ใบ โดยมีเหตุผลที่ว่า บัตรที่ใช้อยู่ไม่ตอบโจทย์การใช้บัตรได้อย่างเต็ที่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสิทธิประโยชน์ หรือการสะสมคะแนน เป็นต้น สาเหตุเหล่านี้เป็นเหตุผลแรกที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะทำบัตรเครดิตเพิ่ม โดยเลือกทำบัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่นตรงกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง อาจจะไม่ผิดที่จำสมัครเพิ่ม แต่ควรจะตรวจสอบว่าหากมีบัตรเพิ่มจะสามารถแบบภาระที่อาจจะเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ ทางที่ดีควรจะทำการยกเลิกบัตรใบใดใบหนึ่งก่อน ด้วยการเลือกปิดบัตรที่ไม่ค่อยได้ใช้ น่าจะเป็นการป้องกันหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น หากใช้บัตรเต็มวงเงินทุกใบ และทำบัตรเครดิตที่ตนเองสามารถจะใช้ประโยชน์จากบัตรได้อย่างเต็มที่

ทั้งที่กล่าวมาทั้งหมดเพื่อชี้ให้เห็นถึงสาเหตุหลักที่ผู้ตัดสินใจทำบัตรเครดิตแล้ว

กลับกลายเป็นการสร้างภาระและหนี้สินให้กับตนเอง ทั้งที่ตอนทำบัตรเครดิตมีความตั้งใจที่จะทำเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการใช้จ่ายแทนเงินสด แต่เมื่อบัตรอยู่ในมือกลับใช้บัตรอย่างขาดสติ จนนำไปสู่การเป็นหนี้ในที่สุด บทสรุปของการทำบัตรเครดิตนั้นไม่ยาก แต่การใช้บัตรต่างหากที่เป็นเรื่องที่ยาก เราจะเห็นบ่อยครั้งที่คนรอบตัวต่างเป็นหนี้บัตรเครดิต และหาทางออกกับหนี้ที่เกิดขึ้นไม่ได้ และก็ยังคงแก้ไขปัญหาไม่ได้ เพราะสร้างหนี้ที่เพิ่มขึ้นมากขึ้นๆ ด้วยการนำเงินจากบัตรนั้นไปชำระค่าบัตรนี้ จนเป็นดินพอกหางหมูไปเรื่อยๆ เมื่อหนี้ก้อนโตขึ้นก็ไม่สามารถชำระได้ เพราะรายได้ที่มีไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้ จากเหตุผลทั้งหมดจึงกล่าวได้เพียงว่า การใช้บัตรเครดิตควรถามตัวเองก่อนทำบัตรเครดิตว่าตนเองมีวินัยและความรับผิดชอบมากพอหรือยังที่จะใช้บัตร