สินเชื่อบัตรกดเงินสด ใช้อย่างไรให้ปลอดภัยกับตัวเอง

หัวข้อเด่นในเรื่องนี้

สินเชื่อ “บัตรกดเงินสด” เป็นสินเชื่อที่รับเป็นวงเงินหมุนเวียน

โดยการใช้เงินผ่าน “บัตรกดเงินสด” ด้วยวิธีการกดจากตู้ ATM ออกมาใช้ ซึ่งจะกดออกมาใช้เท่าไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ แต่จะต้องไม่เกินวงเงินที่ได้รับอนุมัติในบัตร ปกติแล้วธนาคารหรือผู้ให้สินเชื่อแต่ละรายจะสามารถอนุมัติวงเงินให้ผู้ขอกู้สินเชื่อได้ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน

ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและการพิจารณาของธนาคาร หรือผู้ให้สินเชื่อนั่นเอง ส่วนเรื่องของอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อบัตรกดเงินสดนี้ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะกำหนดให้แต่ละธนาคารหรือผู้ให้กู้กำหนดได้ไม่เกิน 28% ต่อปี และต้องใช้การคำนวณแบบลดต้นลดดอก หากสนใจอยากดูโปรโมชั่นสินเชื่อบัตรกดเงินสด

สินเชื่อบัตรกดเงินสด

สินเชื่อ “บัตรกดเงินสด” ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

ในบัตรกดเงินสดหนึ่งใบมีอะไรที่เราต้องรู้บ้าง? มาทำความรู้จักกันนะคะ เพราะมันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเข้าใจและใช้สินเชื่อบัตรกดเงินสดนี้อย่างปลอดภัยมากขึ้น

เคล็ดลับหรือเทคนิคการใช้สินเชื่อ “บัตรกดเงินสด” ก็ไม่ยาก

ลักษณะการใช้และการป้องกันก็คล้ายกับบัตรเดบิตหรือบัตร ATM ทั่วไป มาทำความเข้าใจและจำไว้ใช้กันเลยค่ะ

1.เมื่อได้บัตรมาใหม่ เปิดซองปุ๊บให้เซ็นชื่อหลังบัตรปั๊บ เพื่อป้องกันคนอื่นเอาบัตรไปใช้หรือเอาไปแอบอ้าง
2.เราควรเก็บรักษารหัสบัตรกดเงินสดที่ได้มาไว้เป็นความลับ ไม่ให้ใครรู้
3.อย่าเปิดเผยหรือให้ข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลบัตรกดเงินสดกับคนที่ติดต่อมาทางโทรศัพท์หรืออีเมล เช่น พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์
4.ต้องตรวจสอบความถูกต้องของรายการที่ทำธุรกรรมทุกครั้ง
5.ทุกครั้งที่นำบัตรกดเงินสดไปกดที่ตู้ ATM จะต้องสังเกตสิ่งแปลกปลอมที่อาจติดตั้งอยู่กับตู้ ATM เช่น กล้องขนาดเล็ก แป้นกดรหัส หรืออุปกรณ์แปลกปลอมที่ติดอยู่ตรงช่องสอดบัตร เป็นต้น
6.กรณีมีรายการธุรกรรมเพิ่มเติมมานอกเหนือจากที่เราใช้ ให้ดำเนินการติดต่อธนาคารหรือผู้ให้สินเชื่อเพื่อตรวจสอบทันที
7.เมื่อทำบัตรกดเงินสดหาย ต้องรีบแจ้งอายัดบัตรกับธนาคารหรือผู้ให้สินเชื่อทันที

สินเชื่อบัตรกดเงินสด

สินเชื่อ “บัตรกดเงินสด” นับได้ว่าเป็นสินเชื่อที่ขอกู้ได้ง่าย

และได้รับการอนุมัติไวกว่าสินเชื่อประเภทอื่น แต่ต้องจำไว้ว่าสินเชื่อประเภทนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อประเภทอื่น ดังนั้น ก่อนใช้ทุกครั้งเราควรจะคิดให้รอบคอบ ใช้จ่ายเฉพาะยามฉุกเฉินหรือจำเป็นเท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจทำให้เราตกอยู่ในหลุมพรางของหนี้สินโดยไม่รู้ตัวนะคะ

ขอบคุณข้อมูล/checkraka