รีไฟเเนนซ์บัตรเครดิต เพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวคุณ
ในปัจจุบันนี้ผู้คนมีค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทั้งใช้ในชีวิตประจำวันและที่ต้องจ่ายทุกเดือน
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเงินที่คุณหามาได้ในแต่ละเดือนไม่พอที่จะใช้จ่ายต่างๆ ในแต่ละเดือนของคุณได้ หรือง่ายๆคือ รายได้ไม่พอสำหรับรายจ่าย เมื่อเป็นเช่นนั้น บัตรเครดิตจึงเป็นตัวช่วยสำหรับใครหลายๆคน เพื่อทำให้การเงินในแต่ละเดือนของคุณดีขึ้น แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่านั้นคือกับดักทางหนี้สิน ดังนั้นบทความนี้เรามีตัวช่วย ในการชำระหนี้บัตรเครดิต ที่เรียกว่า รีไฟแนนซ์ มาฝาก
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือ
การรีไฟเเนนซ์บัตรเครดิต คือการขอสินเชื่อใหม่ เพื่อนำมาชำระปิดหนี้บัตรเครดิตที่เป็นอยู่ เป็นการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ช่วยให้คุณได้รับอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลง เพิ่มเวลาผ่อนให้นานขึ้น เเละยังเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้คุณอีกด้วย เเละใครที่เป็นหนี้บัตรเครดิตหลายใบก็สามารถนำมารวมเป็นหนี้ก้อนเดียวได้ โดยปรึกษากับสถาบันการเงินต่างๆ ที่คุณสนใจได้เลย
ข้อดี ของการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
การรีไฟเเนนซ์จึงเป็นทางออก ที่จะช่วยชำระหนี้ก้อนโตให้กลายเป็นหนี้ก้อนเล็ก
- ดอกเบี้ยลดลง ดอกเบี้ยที่สูง ในแต่ละเดือนที่คุณจ่ายบัตรเครดิตมีสัดส่วนดอกเบี้ยที่สูงเกินไป เมื่อคุณได้ทำการรีไฟเเนนซ์บัตรเครดิตเเล้ว ดอกเบี้ยเเละค่าผ่อนชำระต่อเดือนของคุณจะลดลงทันที เเละทำให้ไม่ต้องเครียดกับปัญหาหนี้บัตรเครดิตที่มีอัตตราดอกเบี้ยที่สูง
- ผ่อนชำระต่อเดือนลดลง การรีไฟเเนนซ์ คือการปรับโครงสร้างหนี้สิน ที่ช่วยให้คุณผ่อนชำระต่อเดือนลดลง เนื่องจากดอกเบี้ยที่ลดลง ระยะเวลาผ่อนที่ยาวขึ้น ซึ่งคุณมีภาระค่าใช้จ่ายที่ลดลงความเครียด ที่มีต่อหนี้สินก็ลดลงด้วยน๊ะจ๊ะ
- รวมหนี้บัตรเครดิตให้เป็นก้อนเดียว บางคนมีบัตรเครดิตหลายใบ เเละทุกใบมีวงเงินเต็มจำนวนทุกหมด ซึ่งหนักต่อการจ่ายชำระในแต่ละเดือนของคุณ ซึ่งการรีไฟเนนซ์บัตรเครดิต สามารถรวมยอดหนี้บัตรเครดิตทั้งหลายให้เป็นก้อนเดียวได้ ทำให้บริหารการเงินของคุณได้ง่ายขึ้น
- สภาพคล่องทางการเงินเพิ่มขึ้น เมื่อความคล่องตัวทางการเงินดีขึ้นก็ยิ่งทำให้คุณมีเงินเหลือเก็บเพิ่มขึ้น เเละสามารถต่อยอดในด้านอื่นๆได้ อาจจะสร้างธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มรายได้มากขึ้น ทำให้ฐานะและการเป็นอยู่ของคุณดีกว่าเดิม เเละมีสภาพทางการเงินเพิ่มมากขึ้นพอมาที่จะผ่อนชำระหนี้สินตรงนี้ได้อีก
- เพิ่มเครดิตสกอร์ให้คุณ เครดิตสกอร์ คือคะเเนนที่วัดความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ เมื่อคุณรีไฟเเนนซ์บัตรเครดิตเเล้ว ทำให้คุณจ่ายชำระน้อยลง ทำให้มีโอกาสที่คุณจะจ่ายหนี้ได้ตามกำหนดชำระ ซึ่งเครดิตสกอร์นี้ส่งผลต่อการยื่นกู้เงินในอนาคต
มาดูกันว่าการรีไฟเเนนซ์เหมาะสมกับใครบ้าง
ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิตเเล้วต้องรีไฟเเนนซ์ เพราะการรีไฟเเนนซ์ก็มีต้นทุนหลายอย่างเช่นกัน
- เจ้าของธุรกิจ เพราะการทำธุรกิจต้องมีเงินก้อนหมุนตลอด เพราะรายจ่ายมีออกทุกวัน เเถมเศรษฐกิจก็ไม่เเน่นอน วันนี้ขายดีพรุ่งนี้ขายไม่ได้ เรียกได้ว่าไม่มีความมั่นคงต่อรายได้ให้กับเจ้าของธุรกิจเลย การจะเเบกรับดอกเบี้ยสูงคงเป็นภาระที่หนักเกินไป การรีไฟเเนนซ์จึงเป็นทางช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีดอกเบี้ยสูงเกินไป ไม่ใช่เหตุจำเป็นที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงๆ เเละถ้าหากปล่อยไว้นานทั้งเงินต้นทั้งดอก ทำให้เกิดหนี้ก้อนใหญ่จากเงินก้อนเล็กๆ ได้เลยทีเดียว
- มีบัตรเครดิตหลายใบ การที่คุณมีบัตรเครดิตหลายใบก็เหมือนการเสียดอกเบี้ยหลายเท่าตัวตามจำนวนบัตรที่มี จะดีกว่ามั้ยถ้าคุณรวมหนี้สินเป็นก้อนเดียวเพื่อจะเสียดอกเบี้ยเเค่ทางเดียวพอ เเถมยังประหยัดเงินต่อเดือนของคุณไปได้อีก
ก่อนที่จะรีไฟเเนนซ์บัตรเครดิต วิธีเตรียมตัวก่อนรีไฟเเนนซ์บัตรเครดิต
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการรีไฟเเนนซ์ของหลายสถาบันการเงินที่เปิดรับ เพราะเเต่ละธนาคารจะมีดอกเบี้ยเเละสิทธิประโยชน์ต่างกัน เพื่อให้คุณได้เปรียบเทียบหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวคุณเอง
- เตรียมเอกสารให้ครบ ซึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมหลักๆ มีดังนี้
กรณีผู้มีรายได้ประจำ
- สำเนาบัตรประชาชน
- สลิปเงินเดือนฉบับล่าสุด หรือหนังสือรับรองการทำงานที่ระบุเงินเดือน ตำแหน่ง และอายุงาน
- สำเนาบัญชีเงินฝากที่เงินเดือนเข้าย้อนหลัง 3 เดือน (กรณีที่มีรายได้ ขอสำเนาบัญชีเงินฝากที่มีรายได้เข้าย้อนหลัง 6-12 เดือน)
- สำเนาบัญชีเงินฝากหน้าแรกของธนาคารที่ระบุชื่อผู้สมัครที่จะให้ธนาคารโอนเงินเข้า (เฉพาะผู้สมัครที่ขอรับเงินกู้โดยวิธีโอนเข้าบัญชีเงินฝากทันทีที่สินเชื่อได้รับอนุมัติ)
กรณีเจ้าของกิจการ
- สำเนาบัตรประชาชน
- หนังสือรับรองบริษัท และบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (คัดรับรองไม่เกิน 3 เดือน)
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน (บัญชีส่วนตัวและบัญชีเจ้าของกิจการ)
- ใบทะเบียนการค้า (กรณีไม่ใช่นิติบุคคลตามกฎหมาย)
- สำเนาบัญชีเงินฝากหน้าแรกของธนาคารที่ระบุชื่อผู้สมัครที่จะให้ธนาคารโอนเงินเข้า (เฉพาะผู้สมัครที่ขอรับเงินกู้โดยวิธีโอนเข้าบัญชีเงินฝากทันทีที่สินเชื่อได้รับอนุมัติ)
3. เตรียมตัวตอบคำถาม แน่นอนว่าสถาบันทางการเงินต้องถามคุณอย่างแน่นอน ทั้งการเงินและเรื่องส่วนตัว ถ้าหากคุณเตรียมตัวดี มีการวางแผนการเงินที่ดี โอกาสยื่นรีไฟแนนซ์ผ่านก็จะสูงขึ้น
เรียบเรียงโดย/168Creditcards
อ้างอิงจาก/krungsri